Home > Medias & Articles > ใช้ชีวิตสุดล้ำใน Smart Home อย่างมั่นใจ ด้วย 6 ทริกเพิ่มความปลอดภัยให้อุปกรณ์ IoT

ใช้ชีวิตสุดล้ำใน Smart Home อย่างมั่นใจ ด้วย 6 ทริกเพิ่มความปลอดภัยให้อุปกรณ์ IoT

‘Smart Home’ หรือ ‘บ้านอัจฉริยะ’ ที่เราสามารถควบคุมการทำงานของอุปกรณ์ทุกอย่างได้เพียงแค่ปลายนิ้วอย่างที่เราเคยเห็นกันในภาพยนตร์ไซไฟเมื่อช่วง 10 ปีที่แล้ว คงเป็นภาพบ้านในฝันของใครหลาย ๆ คน ซึ่งในปัจจุบันนี้ เทคโนโลยีที่ถูกเรียกว่า Internet of Things (IoT) ทำให้เราสามารถเชื่อมต่อการทำงานของเครื่องใช้ไฟฟ้าแทบทุกอย่างในบ้านเข้าด้วยกัน และทำให้ภาพบ้าน Smart Home ในฝันของทุกคนกลายเป็นจริง
.
ปฏิเสธไม่ได้ว่าความสะดวกสบายมักมาพร้อมกับความเสี่ยงเสมอ การที่อุปกรณ์ในบ้านสามารถเชื่อมต่อเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลกันผ่านสัญญาณอินเทอร์เน็ตและเข้าถึงกันได้หมด ทำให้มีความเสี่ยงที่แฮกเกอร์อาจสามารถเข้าแฮกข้อมูลของเราได้ผ่านการเข้าถึงเครือข่ายสัญญาณ หรืออุปกรณ์เครื่องใดเครื่องหนึ่ง หรืออาจร้ายแรงถึงขั้นที่แฮกเกอร์เข้าควบคุมอุปกรณ์ของเราเพื่อลักลอบดักฟังผ่านไมโครโฟนหรือแอบดูเราผ่านกล้องของอุปกรณ์ไฟฟ้า
.
สัญญาณ Wi-Fi ที่เป็นตัวปล่อยสัญญาณอินเทอร์เน็ตไปทั่วบ้านนั้นถือเป็นหัวใจสำคัญในการทำให้อุปกรณ์ IoT ทั้งหมดเชื่อมต่อกันได้ และยังเป็นจุดที่เสี่ยงต่อภัยคุกคามมากที่สุดเช่นเดียวกัน ดังนั้น การดูแลรักษาความปลอดภัยของ Router จึงเป็นเรื่องที่จำเป็นอย่างมาก โดยเราสามารถเพิ่มระดับความปลอดภัยของสัญญาณ Wi-Fi และอุปกรณ์ IoT ของเราได้ด้วยทริกทั้ง 6 ข้อ ดังต่อไปนี้
.
1. เปลี่ยนชื่อของอุปกรณ์ Router เนื่องจากชื่อที่ถูกตั้งมาด้วยค่าเริ่มต้นของ Router นั้นมักมาจากชื่อรุ่นและผู้ผลิตซึ่งสามารถถูกคาดเดาได้ง่าย อาจเป็นการเปิดโอกาสให้ผู้ไม่หวังดีทราบถึงรุ่น และยี่ห้อที่เราใช้อยู่เพื่อนำไปหาช่องโหว่สำหรับใช้ในการโจมตีต่อไปได้
.
2. ตั้งรหัสผ่านให้คาดเดายาก เช่น ข้อมูลส่วนตัวของคุณที่ไม่มีใครรู้ โดยใช้ตัวอักษรพิมพ์เล็ก-ใหญ่ ตัวเลข และเครื่องหมายผสมกัน ในการใช้งานอุปกรณ์ IoT บางอย่างจำเป็นต้องมีการสร้างบัญชีผู้ใช้ ดังนั้น จึงควรใช้รหัสผ่านที่แข็งแรงและแตกต่างกันไปในทุกอุปกรณ์ด้วยเช่นกัน
.
3. ตั้งค่า Router ให้ใช้การเข้ารหัสแบบ WPA2 ซึ่งเป็นมาตรฐานการตั้งค่าเครือข่าย Wi-Fi ที่ปลอดภัยที่สุดในตอนนี้ (มาตรฐาน WPA3 กำลังจะเปิดใช้เร็ว ๆ นี้) โดยตามมาตรฐาน WPA2 จะใช้การตรวจสอบสิทธิ์การเข้าถึงเครือข่ายของผู้ใช้งานด้วยการตรวจสอบ Certificate และ Private Key ของผู้ใช้ ซึ่งเป็นการตรวจสอบอย่างละเอียดเพื่อป้องกันไม่ให้แฮกเกอร์หลุดรอดเข้ามาได้
.
4. แยกเครือข่าย Wi-Fi ให้สำหรับใช้กับอุปกรณ์ IoT โดยเฉพาะ อุปกรณ์ Router ส่วนมากมักจะมีฟังก์ชันให้สร้างเครือข่ายแยกสำหรับแขก (Guest) เราจึงควรใช้อุปกรณ์ IoT กับเครือข่ายที่สร้างแยกออกมาเพื่อป้องกันการเข้าถึงอุปกรณ์ส่วนตัว เช่น สมาร์ทโฟน หรือแล็ปท็อปที่ใช้งานกับเครือข่ายหลักได้ ซึ่งจะช่วยหยุดไม่ให้ข้อมูลสำคัญหลุดรอดออกไปถึงมือแฮกเกอร์ได้
.
5. ใช้ระบบยืนยันตัวตนแบบ 2 ขั้นตอน (Two-Factor Authentication) กับอุปกรณ์ IoT ทั้งหมด เมื่อทุกครั้งที่มีใครพยายามล็อกอินเข้าบัญชีของเรา ก็จะต้องได้รับการยืนยันจากอุปกรณ์อีกเครื่อง เช่น สมาร์ตโฟนของเราก่อน นี่เป็นการตั้งค่าง่าย ๆ ที่มีประสิทธิภาพมากกว่าที่เราคิด
.
6. ใช้ Next-Generation Firewall (NGFW) ซึ่งเป็น Firewall แบบใหม่ที่รวมเอาฟังก์ชันของ Firewall แบบดั้งเดิมและฟังก์ชันการรักษาความปลอดภัยอื่น ๆ เช่น Intrusion prevention system (IPS), เทคโนโลยีการเข้ารหัสแบบ Secure Shell (SSH), หรือ Secure Socket Layer (SSL) รวมถึงการใช้ VPN เข้ามาป้องกันอีกระดับ
.
เมื่อทำตามทริกทั้ง 6 ข้อตามที่เราได้แนะนำมา เท่านี้ก็จะสามารถเพิ่มระดับความปลอดภัยให้คุณใช้ชีวิตใน Smart Home ได้แบบหายห่วง

ปกป้ององค์กรของท่านจากการโจมตีทางไซเบอร์
ติดต่อเรา Cloudsec Asia
ผู้ให้บริการด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ชั้นนำของเอเชียแปซิฟิก
Tel.+66 2117 9668
www.cloudsecasia.com

#cybersecurity
#cybersecurityisamust
#cloudsecasia

Reference:
Goodreau, T., 2021. 7 Actionable Tips to Secure Your Smart Home and IoT Devices [online] IEE Computer Society. Available at: <https://www.computer.org/…/7-actionable-tips-to-secure…> [Accessed 31 December 2021].