Oct 13, 2021
บล็อกเชน (Blockchain) เป็นเทคโนโลยีที่ถูกนำมาใช้จัดเก็บข้อมูลที่มีความปลอดภัยสูง และการนำมาใช้กับระบบการเงินดิจิทัล เช่น คริปโตเคอร์เรนซี (Cryptocurrency), การเงินแบบกระจายศูนย์ (DeFi) และสินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Asset) ที่กำลังเป็นความหวังใหม่แห่งโลกการเงินอนาคตในตอนนี้ บล็อกเชนดำเนินการด้วยวิธีการแบบไร้ตัวกลาง โดยอาศัยระบบเครือข่ายเข้ารหัสที่เชื่อมต่อเข้าหากัน ทำให้ผู้ใช้งานสามารถตรวจสอบข้อมูลระหว่างกันได้อย่างทั่วถึง เราต่างได้ยินกันมาตลอดว่าบล็อกเชนปลอดภัย แต่หลายคนอาจจะยังไม่เห็นภาพนักว่าทำไมตัวมันถึงปลอดภัย โดยบล็อกเชนมีกลไกรักษาความปลอดภัยหลัก ๆ 3 ส่วน ดังนี้: กลไกการเข้ารหัส (Cryptography) ด้วย Private key และ Public key ในการเข้าถึงข้อมูล หรือส่งข้อมูล เช่น การโอนบิตคอยน์ ผู้ใช้งานจะมีคู่กุญแจ (key) ที่ใช้สำหรับการเข้าถึงข้อมูลอยู่ 1 ชุด ซึ่งประกอบด้วย Public Key และ Private Key ที่ถูกสร้างมาคู่กันและสามารถตรวจสอบความถูกต้องของกันและกันได้ โดยใช้เป็นเสมือนลายเซ็นดิจิทัลสำหรับรับรองการทำธุรกรรม หรือการส่งข้อมูลต่าง ๆ ซึ่งกุญแจที่เรียกว่า Private Key เป็นกุญแจที่ต้องเก็บไว้เป็นความลับเพื่อป้องกันไม่ให้ผู้อื่นเข้าถึงบัญชีของเราได้ ในการทำธุรกรรมบนระบบบล็อกเชน ยกตัวอย่างกรณีของการโอนบิตคอยน์ ผู้ส่งจะโอนบิตคอยน์ไปยัง public address หรือ public key ของผู้รับ และผู้รับก็จะใช้ Private key ของตนในการเข้าถึงบิตคอยน์จำนวนดังกล่าว ซึ่งในการใช้งานจริง มีการนำระบบคู่กุญแจ (Key pair) นี้ไปประยุกต์ใช้สำหรับการเข้ารหัสข้อมูลในหลากหลายรูปแบบ กลไกการรองรับความถูกต้องร่วมกัน (Consensus Protocol) ในเครือข่ายบล็อกเชนประกอบด้วยเครื่องคอมพิวเตอร์ซึ่งถูกเรียกว่า Node หลายต่อหลายเครื่องเชื่อมต่อเข้าด้วยกัน โดยข้อมูลทุกอย่างในเครือข่ายจะนำไปเก็บไว้ในเครื่องคอมพิวเตอร์แต่ละเครื่อง และทุก...