PENETRATION TESTING (Pentest) การทดสอบเจาะระบบ

Penetration Testing (Pentest Service) การทดสอบเจาะระบบ

Penetration Testing Service (Pentest) คือ การทดสอบเจาะระบบ มีจุดประสงค์เพื่อค้นหาช่องโหว่ของระบบเป้าหมาย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการบริหารจัดการช่องโหว่ โดยการทดสอบจะจำลองวิธีการของผู้บุกรุกเพื่อค้นหาช่องโหว่ให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับประเภทของเป้าหมาย โดยองค์กรอาจกำหนดเป้าหมายได้ทั้ง ระบบเครือข่าย เครื่องแม่ข่าย แอปพลิเคชัน เว็บ หรือแม้แต่ แอปพลิเคชั่นที่ให้บริการบนโทรศัพท์มือถือ (Mobile aplication)

เมื่อองค์กรได้เข้าใจถึงช่องโหว่ของเป้าหมายนั้น ๆ ทำให้องค์กรสามารถปิดช่องโหว่เหล่านั้น หรือเลือกวิธีป้องกันเพื่อลดทอนความเสี่ยงได้ ก่อนที่ผู้บุกรุกตัวจริงจะพบเจอและโจมตีด้วยวิธีการเดียวกัน

คุณภาพของการทดสอบเจาะระบบ ไม่ได้ขึ้นอยู่แค่กับช่องโหว่ที่ผู้ทดสอบเจอและนำเสนอ แต่ยังขึ้นอยู่กับกระบวนการที่จะให้คำปรึกษาเพื่อจัดการกับช่องโหว่ที่เจอ วิธีการนำเสนอช่องโหว่ และความพยายามในการติดตามช่องโหว่เหล่านั้นด้วย

ที่คลาวด์เซค เอเซีย เราพยายามให้คำปรึกษาให้กับลูกค้าอย่างกระตือรือล้น โดยในรายงานจะอธิบายตำแหน่งของทุกช่องโหว่ที่ตรวจพบพร้อมกับการประเมินความเสี่ยงและการแนะนำวิธีการแก้ไข ทั้งนี้ยังคอยให้คำแนะนำ ตลอดการปิดช่องโหว่และทดสอบซ้ำเพื่อให้แน่ใจว่าช่องโหว่ที่องค์กรปิดนั้น ทำได้อย่างถูกต้องและเหมาะสมด้วย ทีมงานที่มีความเชี่ยวชาญทในการให้บริการในอุตสาหกรรมไซเบอร์ซีเคียวริตี้ และมีประสบการณ์ในการให้คำปรึกษาด้านความปลอดภัยข้อมูลและความเข้าใจด้านความปลอดภัยในหลายๆด้าน เช่น เครือข่ายภายใน แอปพลิเคชั่นเว็บและมือถือ รวมถึงพื้นที่เชิงพาณิชย์แบบเฉพาะ เช่น RFID, ATM, EDC และโครงสร้างโทรคมนาคม

 

ลักษณะเฉพาะของบริการทดสอบเจาะระบบ (Penetration Testing)

  • กำหนดขอบเขตและเป้าหมายของงานโดยลูกค้า
  • ผู้เกี่ยวข้องในองค์กรจะได้รับทราบถึงช่วงเวลาที่ทดสอบระบบล่วงหน้า
  • มีขอบเขตและกฏเกณฑ์ในการทดสอบระบบชัดเจน
  • การทดสอบจะเป็นการทดสอบเฉพาะเป้าหมายที่ระบุเท่านั้น
  • เน้นไปที่การค้นหาช่องโหว่ให้ได้มากที่สุดเพื่อนำเสนอให้องค์กรปิดช่องโหว่
  • เทคนิคที่ใช้: mapping, scanning, and exploiting
  • ผลลัพธ์ที่คาดหวัง : ช่องโหว่มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ของระบบที่ระบุเป็นเป้าหมาย
 

ข้อดีของ Penetration Testing 

ประโยชน์ของการใช้บริการ Penetration Testing  หรือการทดสอบการเจาะนั้นมีมากมาย เช่น
 
  1. ระบุและแก้ไขช่องโหว่ : การทดสอบการเจาะสามารถช่วยระบุและแก้ไขช่องโหว่ในระบบของคุณก่อนที่แฮ็กเกอร์จะใช้ประโยชน์ได้ ช่องโหว่เหล่านี้อาจเป็นข้อบกพร่องในซอฟต์แวร์ การกำหนดค่าระบบที่ไม่เหมาะสม หรือแม้แต่ความผิดพลาดของมนุษย์ การระบุและแก้ไขช่องโหว่เหล่านี้เป็นสิ่งสำคัญในการปรับปรุงความปลอดภัยขององค์กรของคุณ

     

  2. ปรับปรุงสถานะความปลอดภัย : เมื่อคุณเข้าใจช่องโหว่ของคุณแล้ว คุณสามารถดำเนินการเพื่อปรับปรุงสถานะความปลอดภัยโดยรวมของคุณได้ สิ่งนี้อาจรวมถึงการอัปเดตซอฟต์แวร์ การปรับปรุงการกำหนดค่าระบบ และการฝึกอบรมพนักงานเกี่ยวกับความปลอดภัย

  3. ปฏิบัติตามข้อกำหนดการปฏิบัติตามข้อกำหนด : หลาย ๆ กฎระเบียบกำหนดให้องค์กรต้องทำการทดสอบการเจาะเป็นประจำ ตัวอย่างเช่น พระราชบัญญัติการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ของสหรัฐอเมริกา (CISA) กำหนดให้หน่วยงานของรัฐต้องทำการทดสอบการเจาะอย่างน้อยปีละครั้ง

  4. ลดความเสี่ยงของการรั่วไหลของข้อมูล : การทดสอบการเจาะสามารถช่วยป้องกันไม่ให้เกิดการรั่วไหลของข้อมูลโดยการระบุและแก้ไขช่องโหว่ที่อาจถูกใช้เพื่อขโมยข้อมูล สิ่งนี้อาจรวมถึงข้อมูลส่วนบุคคล ข้อมูลทางการเงิน หรือข้อมูลที่สำคัญทางธุรกิจอื่นๆ

 

การทดสอบการเจาะเป็นเครื่องมือที่มีค่าสำหรับองค์กรใดๆ ที่ต้องการปรับปรุงความปลอดภัยของข้อมูลและระบบของตน โดยระบุและแก้ไขช่องโหว่ก่อนที่จะสามารถถูกใช้ประโยชน์ได้