Cyber crime อาชญากรรมทางไซเบอร์ ภัยคุกคามที่ต้องเฝ้าระวัง

Cyber crime

Cyber crime (อาชญากรรมทางไซเบอร์) คือ การกระทำความผิดทางกฎหมายโดยใช้คอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เป็นเครื่องมือในการก่อให้เกิดความเสียหาย และ/หรือแสวงหาผลกำไร

Cyber crime อาชญากรรมทางไซเบอร์ แต่ละประเภท

  • อาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์ (Computer crime) คือ การกระทำความผิดทางกฎหมายโดยใช้คอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เป็นเครื่องมือในการก่อให้เกิดความเสียหายต่อระบบคอมพิวเตอร์หรือข้อมูลที่อยู่ในระบบคอมพิวเตอร์ เช่น การโจรกรรมข้อมูลส่วนบุคคล การเผยแพร่ข้อมูลเท็จ การเผยแพร่สื่อลามกอนาจาร การทำลายข้อมูล เป็นต้น
  • อาชญากรรมทางเศรษฐกิจเกี่ยวกับเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (Economic crime about information technology and communication) คือ การกระทำความผิดทางกฎหมายโดยใช้คอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เป็นเครื่องมือในการแสวงหาผลกำไร เช่น การฉ้อโกงออนไลน์ การฟอกเงิน การละเมิดลิขสิทธิ์ เป็นต้น
  • การก่อการร้ายทางไซเบอร์ (Cyber terrorism) คือ การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเพื่อก่อการร้าย เช่น การโจมตีระบบคอมพิวเตอร์ของหน่วยงานรัฐหรือองค์กรสำคัญ การเผยแพร่ข้อมูลเท็จเพื่อสร้างความสับสนวุ่นวาย เป็นต้น

อาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์ (Computer crime)

อาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์สามารถแบ่งออกเป็นประเภทย่อยๆ ได้ดังนี้

  • การโจรกรรมข้อมูลส่วนบุคคล (Data theft) คือ การกระทำความผิดโดยการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของผู้อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต เช่น ข้อมูลส่วนตัว ชื่อ-นามสกุล ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ หมายเลขบัตรเครดิต รหัสผ่าน เป็นต้น
  • การเผยแพร่ข้อมูลเท็จ (Dissemination of false information) คือ การกระทำความผิดโดยการเผยแพร่ข้อมูลเท็จลงในระบบคอมพิวเตอร์ เช่น ข้อมูลข่าวสารที่บิดเบือน ข้อมูลที่เป็นอันตรายต่อสังคม เป็นต้น
  • การเผยแพร่สื่อลามกอนาจาร (Dissemination of pornographic material) คือ การกระทำความผิดโดยการเผยแพร่สื่อลามกอนาจารลงในระบบคอมพิวเตอร์ เช่น ภาพ วิดีโอ ข้อความ เป็นต้น
  • การทำลายข้อมูล (Data destruction) คือ การกระทำความผิดโดยการทำลายข้อมูลที่อยู่ในระบบคอมพิวเตอร์ เช่น การลบข้อมูล การทำลายข้อมูล เป็นต้น

Computer crime อาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์มีผลกระทบต่อสังคมในหลายด้าน เช่น ก่อให้เกิดความเสียหายต่อระบบคอมพิวเตอร์และข้อมูล ก่อให้เกิดความเสียหายต่อเศรษฐกิจ ก่อให้เกิดความเสียหายต่อความมั่นคงของรัฐ ก่อให้เกิดความเสียหายต่อสังคมและศีลธรรม เป็นต้น

ทั้งอาชญากรรมทางไซเบอร์และอาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์เป็นภัยคุกคามต่อสังคมในปัจจุบัน จำเป็นต้องมีการร่วมมือกันของทุกภาคส่วนในการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมเหล่านี้

วิธีรับมือ อาชญากรรมทางไซเบอร์ Cyber crime

อาชญากรรมทางไซเบอร์ (Cyber crime) เป็นภัยคุกคามต่อบุคคล องค์กร และประเทศชาติ จำเป็นต้องมีการร่วมมือกันของทุกภาคส่วนในการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมเหล่านี้ ในส่วนของบุคคลธรรมดา เราสามารถรับมือกับอาชญากรรมทางไซเบอร์ได้ดังนี้

  • เฝ้าระวังการถูก Cyber crime ภัยคุกคามทางไซเบอร์ เรียนรู้เกี่ยวกับประเภทของอาชญากรรมทางไซเบอร์ และวิธีการป้องกัน
  • ใช้อุปกรณ์และซอฟต์แวร์รักษาความปลอดภัย ติดตั้งโปรแกรมป้องกันไวรัสและไฟร์วอลล์ที่ทันสมัย และอัปเดตซอฟต์แวร์อยู่เสมอ
  • ตั้งรหัสผ่านที่ปลอดภัย ใช้รหัสผ่านที่ยาวและซับซ้อน และใช้รหัสผ่านที่แตกต่างกันสำหรับบัญชีต่างๆ
  • อย่าคลิกลิงก์หรือเปิดไฟล์แนบจากแหล่งที่ไม่รู้จัก ลิงก์และไฟล์แนบเหล่านี้อาจเป็นอันตรายและอาจทำให้ข้อมูลของคุณถูกขโมยได้
  • อย่าเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลมากเกินไป หลีกเลี่ยงการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล เช่น ชื่อ-นามสกุล ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ หมายเลขบัตรเครดิต รหัสผ่าน เป็นต้น ในที่สาธารณะ
  • สำรองข้อมูลสำคัญ สำรองข้อมูลสำคัญของคุณเป็นประจำ ในกรณีที่ข้อมูลของคุณถูกขโมยหรือเสียหาย

หากถูก อาชญากรรมทางไซเบอร์ Cyber crime ควรทำอย่างไร

หากตกเป็นเหยื่อของอาชญากรรมทางไซเบอร์ ให้รายงานต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น ตำรวจ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เป็นต้น

  • เก็บหลักฐานไว้ เก็บหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับการโจมตีทางไซเบอร์ เช่น อีเมล ข้อความ ไฟล์แนบ เป็นต้น
  • เปลี่ยนรหัสผ่าน เปลี่ยนรหัสผ่านของบัญชีต่างๆ ทันทีที่คุณทราบถึงการโจมตีทางไซเบอร์

นอกจากนี้ หน่วยงานภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้องควรร่วมมือกันในการออกมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางไซเบอร์อย่างจริงจัง เช่น การให้ความรู้แก่ประชาชนเกี่ยวกับอาชญากรรมทางไซเบอร์ การบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด เป็นต้น